20 ประเด็นที่คุณอาจไม่รู้เกี่ยวกับ “เดอะ บีสต์”พาหนะคู่กายผู้นำสหรัฐฯ


มาดู 20 ประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับแคดดี้วัน เอเคเอ (Caddy One, AKA) หรือ เจ้าสัตว์ร้าย ‘The Beast’ พาหนะคู่กายประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่มีคุณสมบัติพิเศษราวกับรถของสายลับเจมส์ บอนด์กัน

1. พลังงานมาจากเครื่องยนต์ดีเซล 6.5 ลิตร ซึ่งใช้การอัดอากาศเข้าไปในเครื่องเพื่อเพิ่มพลัง แต่แม้จะมีแหล่งพลังงานที่มหาศาลราวกับช้างแมมมอธ แต่เจ้าสัตว์ร้ายตัวนี้กลับมีความเร็วสูงสุดเพียง100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยใช้เวลา15 วินาทีในการเร่งความเร็วจนถึงจุดสูงสุด

2. โครงสร้างรถยนต์ปรับมาจากช่วงล่างของรถกระบะจีเอ็มและมีน้ำหนักถึง 6,350 ก.ก. แม้แต่รถโรลส์รอยซ์ แฟนทอมซึ่งเป็นรถที่ใหญ่ที่สุดบนท้องถนนก็มีน้ำหนักเพียง 2,550 ก.ก. จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมพาหนะของผู้นำสหรัฐฯ จึงใช้น้ำมัน 13 ก.ม. ต่อ 3.8 ลิตร

3. น้ำหนักส่วนใหญ่มาจากเกราะที่หุ้มรถ โดยตัวถังทำจากเหล็กกล้า อลูเนียม ไททาเนียมและเซรามิค

4. กระจกรถยนต์หนา 5 นิ้วและเปิดได้เฉพาะกระจกหน้ารถ เพื่อให้คนขับสามารถคุยกับหน่วยอารักขาพิเศษที่คอยขับรถประกบหรือสำหรับจ่ายค่าทางด่วน นอกจากนี้ยังขอบกระจกยังปิดผนึกอย่างหนาแน่นพิเศษเพื่อป้องกันการโจมตีด้วยสารเคมี

5. หากเหตุการณ์เลวร้ายเกิดขึ้น ก็สามารถใช้ออกซิเจนภายในรถที่สำรองไว้ได้

6. รถหุ้มเกราะคันนี้มีความแข็งแรงเทียบเท่ากับรถถัง ทำให้ประตูรถซึ่งหนาถึง 8 นิ้วมีน้ำหนักเท่ากับประตูเครื่องบินโบอิ้ง 747

7. ประตูรถที่หนามากทำให้ประธานาธิบดีไม่ได้ยินเสียงจากภายนอก จึงมีลำโพงภายในเพื่อให้ได้ยินเสียงด้านนอก

8.ช่วงล่างของรถถูกเสริมให้แข็งแรงด้วยแผ่นเคฟล่าซึ่งเป็นใยไฟเบอร์ถักที่มีราคาแพงมากเพราะมีคุณสมบัติทนทานแข็งแรง ไม่มีผลต่ออุณหถูมิ หรือความร้อน และตอบสนองแรงสั่นสะเทือนได้ดี เพื่อป้องกันเจ้าแคดดี้ วัน จากการถูกโจมตีด้วยระเบิด

9. ถังน้ำมันถูกออกแบบให้ป้องกันการรั่วซึมโดยกรุด้วยโฟมแบบพิเศษเพื่อป้องการระเบิด แม้ว่าจะถูกกระแทกอย่างจัง

10. ที่กันชนหน้ามีรูสองรูที่สามารถปล่อยแก๊สน้ำตาและระเบิดควันได้

11. ระบบวิดีโออินฟาเรดถูกติดตั้งเพื่อให้คนขับสามารถขับผ่านควันหนาทึบ และขับท่ามกลางความมืดในเวลากลางคืนได้โดยไม่ต้องเปิดไฟหน้ารถ

12. โดยปกติเจ้าคาดิแลค วัน คันนี้จะประดับด้วยธง 2 ผืน คือธงชาติสหรัฐฯ และธงประจำตัวประธานาธิบดีซึ่งจะสว่างในเวลากลางคืนด้วยหลอดแอลอีดี เมื่อประธานาธิบดีไปเยือนต่างประเทศ ก็จะเปลี่ยนธงประจำตัวเป็นธงชาติของประเทศนั้นๆ แทน


กดถูกใจ (Like) ​ติดตามข่าวสารจาก ข่าวบ๊อก.com

Previous
Next Post »